มารีวิวโรงแรมใน โอซาก้า สำหรับคนที่ต้องการห้องกว้างหน่อย วางกระเป๋าได้สะดวก และไม่ได้ต้องการเซอร์วิสอะไรมากนัก ก่อนเริ่มลงรายละเอียด มาดูจุดเด่นของโรงแรมนี้กัน
Hotel Amaterrace Yosuga (Osaka)
- สถานีที่ใกล้สุด: Ebisucho (Sakaisuji Line) สายสีน้ำตาล (Exit 1-B)
- เป็นโรงแรมกึ่งอพาร์ทเม้นท์ พื้นที่กว้าง นอนแบบฟูตอน
- ใกล้แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในโอซาก้า เช่น Shinsekai, Tsutenkaku Tower, Spa World, Denden Town (พวกนี้ใกล้มาก)
- ตลาดคุโรมง (Kuromon Market) ห่างไป 1 สถานีเท่านั้น
- Dotombori, Shinsaibashi ห่างไป 2-3 สถานี (ต้องเปลี่ยนสาย)
- รอบโรงแรมมีร้านอาหารเช่น Sukiya, Kitchen Origin และ 100LAWSON
- เช็คอินได้ตั้งแต่ 3 โมงเย็น – 4 ทุ่ม (check-in time: 3 PM – 10 PM)
- พนักงานเช็คอินอยู่ตั้งแต่ 2 โมง – 5 ทุ่ม
- Family Room (สูงสุด 4 คน) เราไป 3 คน นอน 2 คืน = 8,873 บาท (ราคารวม)
ทีนี้มาดูห้องพักกันบ้าง ตอนไปคือช่วงต้นธันวาคม 2018 ความต้องการคือหาห้องที่นอนได้ 3 คน และมีที่พอให้วางของ เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ค้นไปค้นมาก็เลยลงตัวกับที่นี่
ฟูกนอนแบบญี่ปุ่น (Futon)
ห้อง Family room นอนได้สูงสุด 4 คน แต่เราไปแค่ 3 คน ทางรร.เลยปูไว้ให้แค่ 3 เบาะ
มีช่องเสียบ USB และช่องเสียบปลั๊กชาร์ตได้ที่หัวนอน มีไฟ head light ไว้อ่านหนังสือ
ชอบอีกอย่างคือเวลานอน ถ้าแบบไปหลายคนๆ คนนี้จะนอน คนนั้นจะนั่งเล่น คนนู้นจะเข้าห้องน้ำ ก็สามารถดึงม่านกั้นลงมาได้ เป็นการแบ่งส่วนระหว่างส่วนนอน กับส่วนที่เป็นห้องน้ำ โซฟานั่งเล่น เก๋มากๆ
(ตอนไปเป็นหน้าหนาว ถึงปิดแอร์ เปิดฮีตเตอร์ก็ยังหนาวมากๆ ดีที่พอดึงม่านลงมากั้น ค่อยบังลมให้อุ่นขึ้น)
ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ
ห้องน้ำ แยกส่วนจากห้องอาบน้ำ และมีประตูเลื่อนปิดอีกที อุปกรณ์ต่างๆ มีให้ครบอยู่ทั้งผ้าเช็ดตัว เช็ดผม แปรงสีฟัน มีดโกน แก้วน้ำ มีสเปรย์ด้วย
ใต้อ่างล่างหน้าจะมีตะกร้าใส่ผ้า ถังขยะเล็กๆ และที่แขวนผ้าอันน้อยอยู่ ด้านข้างจะเป็นชั้นไม้วางแก้ว และพวกแปรง มีดโกน และไดร์เป่าผม
ห้องอาบน้ำเล็กหน่อยตามสไตล์ญี่ปุ่น แต่สะอาดดี มีอ่างให้แช่เล็กๆ มีกะละมัง และเก้าอี้พลาสติกไว้นั่งอาบน้ำ สระผมได้ พวกสบู่ ครีมนวด ยาสระผมมีให้พร้อมจ้า (แอบมีกระจกให้ส่องเวลาอาบ ก็จะเขินตัวเองเบาๆ)
ส่วนครัว และโซฟานั่งเล่น
ประตูไม้ทางซ้ายคือห้องน้ำนะจ๊ะ ข้อดีของอพาร์ทเม้นท์ที่มาทำโรงแรม ก็น่าจะเป็นการที่มีส่วนครัวเล็กๆ มาให้ด้วย มีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า (แต่ไม่มีอุปกรณ์นะ ทางโรงแรมคงไม่ให้เราทำอาหาร เดี๋ยวไฟไหม้!) มีตู้เย็นเล็กๆ ไมโครเวฟ กาต้มน้ำ น้ำเปล่า
เปิดตู้เหนืออ่างล้างจาน จะมีแก้วใส่น้ำ กับแก้วไวน์ให้ด้วย
เปิดเก๊ะมาก็จะมีช้อน ส้อม ตะเกียบ กรรไกร ที่เปิดไวน์ (มีแก้วไวน์แล้ว ต้องมีที่เปิดด้วย!) และชา กาแฟให้ฟรี ส่วนด้านล่างเป็นจาน และแก้ว
ถัดมาจะเป็นมุมโซฟา ไว้นั่งกินข้าว นั่งดูทีวีชิลๆ แอบหักคะแนนเพราะโซฟาดูเก่า มีรอยเปื้อนดำๆ หน่อย แต่มุมนี้ดี พอตกเย็นมา เราเดินไปซื้อข้าวที่ Sukiya กับพวกน้ำ ขนมมา แล้วก็มานั่งกิน ดูทีวีกัน เริ่ดดดด
มีทีวีอยู่กลางห้อง ไม่ไกลจากโซฟา ก็นั่งเล่น ดูทีวีไปได้
และนี่คือตู้เสื้อผ้า ใหญ่และกว้างดี ชอบตรงทีมีกระจกด้วย เวลาแต่งหน้าก็ไม่ต้องเข้าไปห้องน้ำ ยืนแต่งตรงนี้ได้เลย
ย้อนมาหน้าประตูกันหน่อย จะมีที่แขวนโค้ท และมีไม้ช่วยใส่รองเท้าด้วย
อันนี้วิธีใช้งานรีโมทแอร์ (เป็นปริศนาอย่างหนึ่งสำหรับคนเมืองร้อนที่แอร์=เย็นอย่างเดียว อันนี้มีฮีทเตอร์ด้วย) และวิธีปรับน้ำร้อนในอ่างแช่น้ำ เราไม่ได้ลอง เพราะอาบฝักบัวเฉยๆ
สรุปห้องพัก: โดยรวมใช้ได้ ชอบเลยล่ะ เพราะห้องกว้าง และมีอุปกรณ์ครบ ที่นอนโอเค ติตรงบางอย่างมีรอยเก่า รอยเปื้อนหน่อย
**ถ้าต้องการให้ทำความสะอาดทุกวัน ต้องแขวนป้ายให้เค้ามาทำด้วยนะ เราไม่รู้ นึกว่าแขวนป้ายเฉพาะกรณี Do not disturb ก็เลยนอน 2 วัน ไม่มีใครมาทำความสะอาด 55**
ส่วน lobby และภายนอก
ตัวโรงแรมจริงๆ มันคืออพาร์ทเม้นท์เนี่ยแหละ ตึกเทาๆ สูงๆ ลวดลายแบบนี้ (สังเกตง่ายดี) ประตูเข้าโรงแรมเป็นแบบ 2 ชั้น กดเข้าชั้นแรก ส่วนชั้นเข้าไปด้านในจริงๆ ต้องมี keycard เพื่อความปลอดภัย
เข้ามาถึงทางซ้ายจะเป็นส่วนของพนักงานต้อนรับ ขวามือเป็นมุมโซฟาให้นั่งพักได้ สีฟ้าๆ ที่เห็นคือลิฟท์ขึ้นไปห้องพัก
ตรง lobby จะมีห้องน้ำให้เข้าด้วย แล้วก็มีเครื่องซักผ้าอยู่ด้วย
แนะนำตอนไป check-in: ตอนเราไปเจอคุณลุงใจดี ที่พูดภาษาไทยได้นิดหน่อย (ลุงบอกว่าไปอยู่เชียงใหม่มา 2 ปี) ก็ยื่นใบจองที่ปริ้นมาด้วยให้ไป แต่เหมือนจะติดปัญหาประมาณว่าเค้าเช็คแล้วไม่ขึ้นว่าเราจ่ายเงินแล้ว ซึ่งเราจอง และจ่ายผ่าน Expedia เรียบร้อยมาแล้วตั้งแต่อยู่ไทย ก็เลยเปิดเมล confirmation ให้เค้าดู เพราะมันจะขึ้นว่ารับเงินแล้วนะ ผ่านทาง Expedia ซึ่งโอเค คุณลุงก็เข้าใจแหละ ก็เช็คอินเรียบร้อย (แต่เห็นแกก็แอบโทรไปคุยกันคนอื่นว่ามีปัญหายอดเงินไม่ขึ้นอยู่) ดังนั้นเวลาไปเช็คอินที่ไหน เตรียมปริ้นใบจอง ใบยืนยันต่างๆ ไปให้พร้อมก็ดี เหลือดีกว่าขาดเด้อ
วิธีเดินมาโรงแรม Amaterrace Yosuga
จากสถานี Ebisucho (สายสีน้ำตาล Sakaisuji) ให้ออกที่ Exit 1-B ซึ่งขึ้นลิฟท์มา ก็ออกได้ 2 ทางคือไปทางถนนใหญ่ กับออกด้านหลังเดินในซอย *ทางออก 1-B มีลิฟท์ให้นะจ๊ะ มีกระเป๋าเดินทางไม่ใช่ปัญหา*
ออกมาทางถนนใหญ่จะหน้าตาแบบนี้ เลี้ยวขวาเดินไปเรื่อยๆ จนเจอร้าน Sukiya แล้วก็เลี้ยวขวาเข้าซอย
เดินไปต่ออีกจนเจอร้าน Super Laundry แล้วเลี้ยวซ้าย ก็จะเจอตึกเทาๆ นั่นแหละโรงแรมจ้า
ดูการเดินตามแผนที่นี้ได้เลย (หรือเลื่อนลงไปอีกนิดจะมี Map ที่ทางโรงแรมทำไว้ ดูง่ายดี มีภาษาอังกฤษให้)
บริเวณรอบโรงแรม Amaterrace Yosuga
อย่างที่บอกไปว่ามีร้านอาหาร มีของกินอยู่บ้าง ไม่อดตายแน่ๆ ตอนแรกเราเดินจากทางด้านหลัง ไม่ใช่ถนนใหญ่เลยไม่เจอร้านอะไรเลย ในใจยังคิด จะไปหาของกินจากไหนเนี่ย แต่พอเปิดคู่มือในห้องดู อ้อ! มีร้านอยู่รอบๆ เยอะเลยแฮะ ก็เลยชวนกันเดินไปดู ถึงพบทางสว่าง 55
เราพักที่นี่แค่ 2 คืน คืนแรกก็เลยเดินไปซื้อ Sukiya (เปิด 24 ชม.) กับแวะดู 100LAWSON
ชอบร้าน Kitchen ORIGIN มาก คราวก่อนไปพักแถวชินเซไค (อ่านรีวิวโรงแรม Hotel Vertex Osaka) ก็มีร้านนี้ใกล้ๆ แวะกินได้ตั้งแต่เช้าตรู่ ถึงค่ำมืด (ตอนเย็นๆ อาหารลดราคาด้วย!) เลือกตักกับข้าวได้เป็นขีดๆ หรือจะสั่งเป็นจานๆ ก็ได้ นั่งกินที่ร้านได้เลย เยี่ยม!
LAWSON STORE 100
ตอนแรกเห็นก็แบบ เออ…มันต่างกับ LAWSON ธรรมดายังไง? พอเข้าไปนี่แบบโหหหห สวรรค์ชัดๆ!
มีทั้งผัก ผลไม้ ของสดไว้ทำกับข้าว แล้วราคาก็ 100 เยนเอง!
น้ำ นม โยเกิร์ต ชา กาแฟ มันละลานตามากกก ร้อยเยน ร้อยเยน ร้อยเยน ~~
ขนมซองก็มี แล้วนี่ชอบกินพวกน้ำส้มยูสุ มีแบบกล่อง 1 ลิตร ราคา 100 เยน! #คว้าต่อไม่รอแล้วจ้า ตอนแรกก็คิดว่าเฮ้ย รึของมันจะใกล้หมดอายุมั้ยนะ แต่พอส่องๆ ดูหลายอย่าง ก็ไม่นะ คือปกติเลย ยังกินได้อีกนาน ไว้ว่างๆ จะลองไปหาโมเดลของ 100LAWSON อ่านหน่อย ทำไมขายได้ถูก (หรือใครรู้ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย)
การเดินทางไปสถานที่เที่ยวใกล้ๆ
Shinsekai/Tsutenkaku Tower/Spa World/Mega Donquijote/Tennoji Zoo
ย่านชินเซไคนี่ใกล้มาก คือเอาจริงๆ สามารถเดินไปได้จากสถานี Ebisucho เลย แล้วระแวกนั้นก็จะมีที่เที่ยวหลายอย่างทั้งหอคอยสึเทนคาคุ สปาเวิล์ด เมก้า ดองกี้ (สาขานี้ดีงาม คนไม่เยอะเท่าที่ Dotombori)
ถ้าเดินจากสถานี Ebisucho ให้ไปออกที่ Exit 3 แล้วเดินไปหน่อยก็จะเจอ Tsutenkaku Tower แล้ว
ในกรอบสีแดงคือย่านชินเซไค ที่มีร้านกินดื่มกลางคืนเยอะมาก ดังนั้นถ้าจะมา แนะนำให้แวะมาช่วงเย็นๆ ค่ำๆ หน่อย แสงสีจะสวยงาม ถนนจะคึกคักมากๆ ส่วนที่ไฮไลท์เหลืองล่างๆ กรอบ จะเห็นว่า Spa Wolrd กับ Mega Donquijote ก็อยู่ไม่ไกลเลย ดีงามมากๆ ทางขวาพื้นที่สีเขียวคือ Tennoji Zoo
Mega Donquijote (Shinsekai) นี้เด็ดมาก คือคนไม่เยอะเท่าที่ Dotombori สามารถเดินเลือกของได้ชิลๆ แถมของก็เยอะมากๆ ของสด ขนม เครื่องสำอางค์ เหล้า ของเล่น ของฝาก เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า และอื่นๆ อีกเพียบ (เปิด 9 โมงเช้า ถึง ตี 5 จ้า ช๊อปกันยาวๆ ไปเลย)
รายละเอียด: ใกล้ Exit 5 ของสถานี Dobutsuen-mae (สถานีนี้มาได้ 2 สายคือ Midosuji (สีแดง) และ Sakaisuji (สีน้ำตาล)) ขึ้นมาปั๊ปจะเจอเจ้าเพนกวินเด่นเลย
และนี่ก็คือรีวิวโรงแรม Amaterrace Yosuga และสถานที่ใกล้เคียง ถ้าใครอ่านรีวิวแล้วชอบใจ ก็ฝากแชร์ ฝากเม้นกันได้น้า ถือว่าเป็นกำลังใจให้คนเขียนหน่อย 55 ครั้งหน้าจะได้รีวิวที่ไหนอีก รอติดตามนะจ๊ะ (เที่ยวไม่บ่อย แต่ถ้าได้ไปอีก จะมารีวิวโรงแรมใหม่ๆ ให้จ้า)